ที่มาแห่งศรัทธามหานิยม ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ เกจิอาจารย์ชื่อดัง แห่งโนนสูง

1775 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ที่มาแห่งศรัทธามหานิยม ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ เกจิอาจารย์ชื่อดัง แห่งโนนสูง

หนึ่งในเครื่องรางวัตถุมงคลสร้างชื่อของไทยที่ดังไกลไปถึงฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ฯลฯ คือ “เทพภมรจำแลง” หรือ “เทพจำแลงภมร” โดยครูบากฤษณะ  อินทวัณโณ ได้ปลุกเสกขึ้นเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเหล่าสานุศิษย์ ซึ่งครูบากฤษณะ  ถือเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีลูกศิษย์ลูกหาให้ความเคารพอยู่แทบทุกมุมโลก  ด้วยครูบาเดิมท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดป่ามหาวัน บ้านคลองยาง ต.ครบุรี อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา

ชื่อเดิม สุรเดช ตับกลาง เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 ส.ค. 2497 ตรงกับวันขึ้น 2 ค่ำ เดือน 9 ปีมะแม ที่บ้านโตนด หมู่ 7 ต.โตนด อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา

ท่านเป็นบุตรคนที่ 9 ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 10 คน ของคุณพ่อเพ็ชร์ คุณแม่แก้ว ตับกลาง ในตระกูลของท่านตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นทวด จนมาถึงบิดานั้นได้เป็นที่พึ่งของชาวบ้านมาโดยตลอด คอยให้ความช่วยเหลือเรื่องหยูกยาตามตำราแพทย์แผนโบราณ ทำให้ ลูกๆ หลานๆ ได้ศึกษาเรียนรู้ ทั้งยาสมุนไพร และวิชาคาถาอาคมเวทย์ต่างๆ ตามคัมภีร์ตำราโบราณที่บรรพบุรุษได้เก็บรักษาเอาไว้ ท่านจึงได้มีวิชาเหล่านี้ติดตัวมาตั้งแต่เล็ก ทำให้ได้คอยช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่รับเงินตามรอยบรรพบุรุษเฉกเช่นเดียวกัน  นี่จึงเป็นเหตุให้ชาวบ้านต่างให้ความเคารพนับถือตระกูลของท่านเสมอมา

เมื่อวัยเยาว์ท่านศึกษาด้านสมาธิอยู่เป็นทุนเดิม ด้วยแถวบ้านมักจะมีพระออกมาจาริกธุดงค์อยู่บ่อยครั้ง จนหลวงปู่เอ็นดู เมตตา ท่านจึงได้ติดตามพระธุดงค์ ออกบวชเป็นสามเณรร่วมจาริกธุดงค์ อุปัฎฐากรับใช้หลวงปู่ครูบาอาจารย์มุ่งสู่ประเทศลาวและเขมร  โดยในระหว่างนี้ท่านก็ได้เรียนวิชาทั้งปริยัติธรรม และพระกรรมฐานการเจริญภาวนาอย่างเข้มงวด เป็นเวลาสิบกว่าปี ก่อนจะลาสิกขาจากสามเณรและเดินทางกลับยังบ้านเกิด เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระงานของบิดามารดา และทำงานรับจ้างต่างๆ จนอายุ 25 ปี บิดาเสียชีวิตกะทันหัน ท่านจึงมีความปรารถนาจะบวชเพื่อทดแทนคุณบิดามารดา และผู้มีอุปการะคุณ ท่านจึงอุปสมบท ณ วัดโคกอู่ทอง ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี 

โดยมี พระครูธรรมรงโพธิเขต (หลวงปู่โสฬส) เจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ฝั้น ชุตินทโร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์กลม วิมโล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ 27 ต.ค.2522 ตรงกับวันเสาร์ 7 ค่ำ เดือน 12 โดยได้รับฉายาว่า “อินทวัณโณ”  และด้วยความใฝ่รู้ทางธรรมท่านจึงปลีกวิเวกจาริกธุดงค์อาศัยอยู่แต่ในป่าเขา เป็นเวลาสิบกว่าพรรษาเพื่อเจริญจิตบำเพ็ญภาวนา โดยถือวัตรธุดงค์อย่างอุกฤษณ์ ท่านได้จาริกธุดงค์ปลีกภาวนาอยู่ประมาณ 3 พรรษา ชาวบ้านที่รู้ว่ามีพระภิกษุมาเจริญสมณธรรมจึงเกิดศรัทธาพากันขึ้นไปทำบุญ และสนทนาธรรมกับท่านอยู่เสมอ ชาวบ้านคลองยางจึงพร้อมใจกันอาราธนานิมนต์ครูบากฤษณะมาเป็นประธานในการก่อสร้าง “สำนักป่ามหาวัน” ขึ้นเมื่อ พ.ศ.2536 โดยเหล่าสานุศิษย์ ผู้มีจิตศรัทธาได้  ร่วมกันก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ ขึ้นและได้ขุดบ่อน้ำขึ้นที่เชิงเขา เพื่อนำมาใช้อุปโภคบริโภค คณะศิษย์จึงนำเอาดินก้นบ่อน้ำที่ขุดมากดลงเป็น “รูปนกสาริกา” ด้วยความศรัทธาที่จะได้สิ่งเป็นมงคลจากครูบาอาจารย์ เมื่อนำดินก้นบ่อมาทำเป็นรูปนกสาริกาคู่ และนำมาให้ท่านอธิษฐานจิต เพื่อให้คณะศรัทธาชาวบ้านและผู้ที่มาร่วมบุญอุปถัมภ์ อุปัฏฐากพระภิกษุสงฆ์ในพรรษาแรกที่ก่อสร้างสำนัก

เมื่อคณะศิษย์ได้นำดินรูปนกสาริกาไปอธิษฐานจิตบูชา ก็เกิดผล จากที่เคยทำมาหากินยาก การงานที่เคยติดขัดก็คล่องตัวขึ้น จึงมีผู้แสวงหารูปสาริกากันมาก พากันมาขอรูปสาริกาต่อท่าน เพื่อเป็นสิริมงคลเป็นกำลังใจให้เกิดความเชื่อมั่นในการประกอบสัมมาอาชีพต่อไป หลังจากนั้นท่านได้สร้างสิ่งมงคลด้วยการเขียนสูตรมนต์ลงผงนำมาบูชาด้วยเครื่องหอมหลายชนิด อธิษฐานจิตแล้วจึงนำมากดพิมพ์เป็น “รูปเทพจำแลงภมร” บริกรรมอธิษฐานจิตเป็นเครื่องมงคลนำมาให้ผู้มีจิตศรัทธาเก็บรักษาบูชา เป็นที่ระลึกเสมือนแทนองค์ครูบาอาจารย์ โดยมีคำสอนว่า “คนล้มแล้วไม่ยอมลุก ชีวิตจะมีแต่ทุกข์เดือดร้อน เมื่อล้มแล้วรีบลุก จะพบความสุขสมดั่งใจแน่นอน”


วัตถุมงคลของครูบากฤษณะจึงดั่งเสมือนกับดวงจิตของท่าน ที่มีแต่ความเมตตาด้วยบารมีธรรม ให้ผู้ระลึกนึกถึงเคารพบูชาในพระรัตนตรัย กตัญญูต่อบุพการี ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณด้วยกุศลบารมีชีวิตจะมีความรุ่งเรือง ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานต่างๆ ต่อมา ครูบากฤษณะได้ก่อสร้างสำนักสงฆ์ขึ้นอีกแห่งหนึ่งคือ สำนักสงฆ์ป่าเวฬุวัน บ้านคลองกระทิง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และต่อมาท่านจำพรรษา อยู่ที่ อาศรมสถานสวนพฤกษศาสตร์ครูบากฤษณะ อินทวัณโณ  อ.โนนสูง จ.นครราชสีมาจวบจนปัจจุบัน 


MURICO COLLECTION 3 : Butterfly Effect

การทำงานร่วมกันระหว่าง MURICO (มูริโค)  กับครูบากฤษณะ อินทวัณโณ พระเกจิอาจารย์จากเมืองโคราช  ผู้สร้างสรรค์วัตถุมงคล “เทพภมรจำแลง“ ที่มีพิมพ์ทรงแปลกไปจากวัตถุมงคลของพระเกจิอาจารย์ทั่วไป คือเป็น รูปองค์พระศิวะ (อิศวร) กับพระอุมาเทวี ผู้มีความรักเป็นอมตะ หันหน้าเข้าหากัน แต่ดูอีกมุมหนึ่งจะเป็นภาพผีเสื้อ ที่มีความงดงามล้ำเลิศในเชิงศิลปะ โดยมีอักขระจารึกเป็นตัวอักษร “เทวะนาคี” โบราณที่มีความเก่าแก่มานานนับพันปี ร่วมกับงานดีไซน์ มีพุทธคุณส่งเสริมกำลังใจในเรื่องของความรักความเมตตา ผู้คนรักใคร่ผู้ใหญ่เอ็นดูอุปถัมภ์ ร่ำรวยทั้งการเงินและโชคลาภ ผลัดเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี   


โดยเสื้อทุกตัวได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกอธิษฐานจิต เพื่อความเป็นสิริมงคลเเก่ผู้ที่ได้ครอบครองเเละสวมใส่นั่นเอง 


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้